ทศชาติ
พระชาติทั้งสิบของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เรียนทุกท่าน
ผมเขียนมาเพื่อเชิญชวนท่านให้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่มอบเป็นบรรณาการล้ำค่าแก่ประเทศชาติ วัฒนธรรม และอนาคต ในโครงการ ทศชาติ – พระชาติทั้งสิบของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะเป็นผลงานที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์การแสดงบนเวที และเป็นสังคีตศิลป์ที่ยาวที่สุดในโลก ประกอบด้วยผลงานถึง 10 เรื่องซึ่งถ่ายทอดในรูปแบบที่อลังการด้วยศิลปะนานาแขนง กล่าวคือ มหาอุปรากร บัลเล่ต์ โอเปร่าผสมบัลเล่ต์ และอื่นๆ
ในปี พ.ศ. 2563 โครงการทศชาติจะเป็นพื้นฐานในการนำเสนอติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน ในลักษณะวัฏจักร และเทศกาลที่จะนำผู้สนใจวัฒนธรรม ปรัชญา ดนตรี และศิลปะ จากทั่วโลกให้เดินทางมาชม นอกจากนั้น ยังเปิดโอกาสให้นักร้อง นักเต้น ศิลปินและนักออกแบบไทย ได้งานอาชีพที่ต่อเนื่องยาวนานถึงทศวรรษหรือศตวรรษ อีกทั้งน้อมนำให้ชมรมศิลปินระดับโลกหันมามองความก้าวหน้าของประเทศไทยในด้านนวัตกรรมศิลปวัฒนธรรม
ผมเริ่มโครงการนี้หลังจากใช้เวลาครุ่นคิดนานถึง 10 ปีก่อนที่จะเดินหน้าไปตามแผนอย่างเชื่องช้าและมั่นคง เมื่อปีพุทธศักราช 2554 คณะมหาอุปรากรอเมริกัน “โอเปร่าวิสต้า” ในยูสตัน สหรัฐอเมริกา ได้นำเสนอ “เตมีย์ใบ้” The Silent Prince ซึ่งเป็นปฐมบทของทศชาติชาดกที่ผมประพันธ์เป็นเรื่องแรก การแสดงครั้งนั้นประสบความสำเร็จท่วมท้น ต่อมาผมจึงนำมหาอุปรากรเรื่องนี้มาแสดงที่กรุงเทพฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างชื่นชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก เมื่อปี 2556ผมจัดการแสดงทศชาติอีกหนึ่งเรื่อง ได้แก่ “พระมหาชนก” ในรูปแบบบัลเล่ต์/โอเปร่า และได้รับคำชมเชยจากสื่อนานาชาติเช่นกัน
ความสำเร็จจากผลงานทั้งสองเรื่อง เป็นแรงบันดาลให้ผมวางแผนโครงการทศชาติ ในเดือนพฤษภาคมนี้ ท่านจะได้ชม “ภูริทัตนาคราช” บัลเล่ต์/โอเปร่าจากพระชาติที่ 6 ของพระพุทธองค์ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หลังจากนั้น จะมีการนำเสนอพระชาติอื่นๆ ในสถานที่แสดงต่างๆ อาทิ ศาลาดนตรีสุริยเทพ ปทุมธานี ฯลฯ จนครบวัฏจักร 10 พระชาติภายในเวลาประมาณ 5 ปี
ปัจจุบันนี้เทศกาลสังคีตศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคือ วัฏจักรวากเนอร์ (The Ring Cycle) ประกอบด้วยมหาอุปรากร 4 เรื่องของวากเนอร์แสดงติดต่อก่อนเป็นเวลา 4 คืนที่เมืองไบรอยธ์ ซึ่งเปรียบเสมือนสถานสักการะว้ากเน่อร์ จึงต้องมีการจองบัตรล่วงหน้านานถึง 10 ปีเพื่อเข้าชม
“ทศชาติ” ของผมเป็นผลงานซึ่งมีสีสันแตกต่างออกไป เนื่องจากผมได้นำความสัมพันธ์เชิงคีตศิลป์ในทศชาติชาดกมาผสมผสานกับลีลาระบำและกวีนิพนธ์ จึงส่งผลให้ “ทศชาติ” เป็นการแสดงบนเวทีในลักษณะ 4 มิติแห่งศิลปะ เช่นเดียวกับแผ่นผ้าที่ทอถักด้วยวัสดุหลากหลาย บางเรื่องเป็นมหาอุปรากร เป็นบัลเล่ต์ บางเรื่องเป็นโอเปร่าผสมบัลเล่ต์ บางเรื่องสั้น บางเรื่องยาว แต่ศิลปินและผู้ร่วมงานทั้งหมดในวัฏจักรทศชาติจะมีจำนวนนับพัน วัฏจักรที่เสร็จสมบูรณ์จะเปิดแสดงใน 5 คืน
บัดนี้ผมได้มาถึงบั้นปลายชีวิตแล้ว ก่อนตาย ผมอยากมอบผลงานที่จะยืนยงตลอดกาลเป็นของขวัญให้ประเทศชาติ ของขวัญของผมจะเป็นน้ำบ่อทรายที่ไม่มีวันเหือดแห้งแห่งวัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยว และชาตินิยม ตลอดจนส่งผลระยะยาวในด้านงานอาชีพให้ศิลปิน นักร้อง นักดนตรี นักออกแบบ ฯลฯ สืบต่อไปชั่วลูกหลาน
ผมสร้างสรรค์แผนงานนี้เพื่อให้ชาวโลกหันมาจับตามองศิลปวัฒนธรรมในประเทศไทย ความอลังการเป็นประวัติการณ์ของผลงานจะเป็นจุดสนใจในโลกดนตรี และบรรทึกไว้ใน Guiness Book แต่กระนั้นผมก็ยังหวังว่าคุณภาพในด้านศิลปะจะส่งประกายโดดเด่นกว่าแง่มุมอื่นๆ
การสรรค์สร้างแผนงานอันเป็นอนุสรณ์จำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะเวลา 5 ปี งบประมาณดังกล่าวอาจไม่มากเท่าการแสดงเพียงเรื่องเดียวที่เมโทรโปลิตัน โอเปร่า นครนิวยอร์ค แต่เราสามารถผลิตผลงานได้ถึง 10 เรื่อง หากคิดว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของประเทศก็สุดที่จะคุ้ม เพราะผลตอบแทนนั้นล้ำค่ายิ่งนักและจะคงอยู่ยืนยงชั่วกาลนาน
ดังนั้น ผมจึงใคร่วิงวอนมายังทุกท่าน จากเอกชนผู้รักดนตรีถึงบริษัทและหน่วยงานรัฐบาล ให้สละทุนทรัพย์สนับสนุนการผลิตโครงการระยะยาว 5 ปี ท่านสามารถสนับสนุนได้เป็นรายปี เงิยบริจาคของท่านไม่ว่าหลักพันหรือหลักล้าน จะช่วยให้งานนี้สัมฤทธ์ผลสมดังเจตนารมณ์
ผมเริ่มแผนงานนี้ด้วยมือเปล่า ผมไม่มีอะไรในมือนอกจากศรัทธาที่ผมมีต่อโครงการ ศรัทธาที่มีต่อผู้ชม กับความเชื่อมั่นในความเอื้ออารีย์ของผู้สนับสนุน
โปรดร่วมกับผมทำให้วิทัศน์ที่สำคัญยิ่งเป็นรูปธรรม
ด้วยความนับถือ
สมเถา สุจริตกุล
Donate via Paypal